วันนี้ ( 30 พฤษภาคม 2561 ) เวลา 10.00 น. กองบริหารงานวิจัย ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แถลงข่าวผลงานวิจัย เรื่อง ผลิตภัณฑ์ครีมรองพื้นที่มีสารสกัดยางนา ผลงานของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แคทรียา สุทธานุช คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยมี รศ.ดร.ไพบูลย์ ดาวสดใส คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ประธานกล่าวต้อนรับสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมสิริคุณากร 3 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปัจจุบันพบว่าผู้คนให้ความสนใจเรื่องสุขภาพและความสวยงามกันมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี แต่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มักเป็นเหยื่อของความงามแบบฉาบฉวย ใช้ครีม และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอย่างเร่งด่วน กระทั่งเกิดผลกระทบต่อผิวพรรณและร่างกาย ตามที่เป็นกระแสทางสังคมดังเช่นที่ผ่านมา
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะสถาบันการศึกษาที่ดำเนินงานสนองยุทธศาสตร์ Excellence Academy เป็นองค์กรที่มีความเป็นเลิศทางศิลปะวิทยาการ ผสานกับยุทธศาสตร์ Care Community การเป็นองค์กรที่มีความห่วงใยดูแลชุมชน ได้ตระหนักถึงผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น จึงได้คิดค้น ผลิตภัณฑ์ครีมรองพื้นที่มีสารสกัดยางนา งานวิจัยที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ภายใต้การดูแลของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แคทรียา สุทธานุช คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นผู้เชี่ยวชาญด้านเวชสำอาง
“ต้นยางนา” นอกจากมีคุณประโยชน์ด้านการเกษตรเป็นพลังงานทดแทนแล้ว งานวิจัยชิ้นนี้ ยังค้นพบว่าสารสกัดจาก “เปลือกยางนา” มีฤทธิ์เชิงเวชสำอาง เสริมสุขภาพผิวอีกด้วย โดยในเปลือกยางนา สามารถสกัดสารเรสเวอราทอล ( Resveratrol ) ซึ่งเป็นสารสำคัญตัวเดียวกันกับที่มักนิยมใส่ในเครื่องสำอางตามเคาเตอร์แบรนด์ในปัจจุบัน และออกฤทธิ์องค์รวมครอบคลุมดูแลทุกสภาพผิว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แคทรียา สุทธานุช ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชสำอาง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า ต้นยางนา เป็นพืชอนุรักษ์ลำดับที่ 9 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 ปลูกมากในจังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะอำเภออุบลรัตน์ จากการศึกษาวิจัยพบว่ายางนามีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ มีสารออกฤทธิ์ที่มีฤทธิ์เวชสำอางที่หลากหลายที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน และค้นพบ
สารเรสเวอราทอล ( Resveratrol) ซึ่งเป็นสารที่ช่วย ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน กระตุ้นการสร้างคอลาเจน ต้านการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวสุขภาพดี ยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนส จึงช่วยให้ผิวไม่มีริ้วรอยและกระจ่างใสขึ้น จะสังเกตว่าสารสกัดดังกล่าวไม่ได้ให้ผลฤทธิ์ใดฤทธิ์หนึ่ง แต่ให้ฤทธิ์แบบองค์รวม ใช้เพียงหลอดเดียว สามารถเป็นทั้งครีมบำรุง กันแสงแดด และฟื้นฟูผิวพรรณอย่างครอบคลุมทุกสภาพผิว
ด้วยคุณสมบัติตามที่กล่าวข้างต้น คณะผู้ประดิษฐ์จึงได้คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์รองพื้นที่มีสารสกัดจากเปลือกยางนาซึ่งเป็นส่วนของพืชที่ไม่มีใครเคยนำไปใช้ประโยชน์มาก่อนมาใช้เป็นส่วนผสม โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้นี้ไม่มีสารสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง
ขั้นตอนการผลิตครีมรองพื้นจากสารสกัดยางนา ประกอบด้วย การนำเปลือกยางนามาสกัดเป็นผง จากนั้นสกัดเป็นสารชนิดเหลว ต่อมานำมาหยดผสมกับสูตรตำรับ ประกอบด้วย ไขมันจากธรรมชาติ แป้ง วิตามิน เฉดสีธรรมชาติ ในปริมาณที่เหมาะสมปั่นรวมกันจนได้เนื้อรองพื้นที่เนียนละเอียด โดยมี 3 เฉดสีให้สาวๆ ได้เลือกใช้สีที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง ปัจจุบันมีชนิดซองหัวบีบ และชนิดกระปุกจำหน่ายที่ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณานำเข้าสู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับความต้องการของผู้อุปโภค
อย่างไรก็ตามคณะผู้วิจัย ได้ตระหนักถึงกระบวนการคัดเลือกสารสกัดจากยางนา และกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย โดยมีความประสงค์จะปลูกฝังค่านิยมอันดีงามให้สาวไทยมีการดูแลสุขภาพผิวและใช้เครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพ สวยสุขภาพดีอย่างไร้สารพิษ หากท่านเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากครีมที่ไม่ผ่านมาตรฐานงานวิจัยและไม่มีมีการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือเกิดอาการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง และปฏิบัติตามขั้นตอนที่แพทย์แนะนำ คือ ค่อยๆลดปริมาณการใช้สารลง ดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และหันมาใช้ครีมที่มีงานวิจัยรองรับ แม้จะใช้เวลานานแต่รับรองว่าปลอดภัย ไร้สารอย่างแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา โทรศัพท์ 0-4320-2733 Email : ip@kku.ac.th และ กองบริหารงานวิจัย โทรศัพท์ : 043 203176 Email : info.orakku@gmail.com
ข่าว Jiraporn Pratomchai
ภาพ apicma
