มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผยแพร่และออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยขอนแก่น (F.M.103) หลังจากที่สถานีวิทยุฯเปลี่ยนสถานภาพจากองค์กรในกำกับมาสังกัดกองสื่อสารองค์กร สำนักงานอธิการบดี
ผศ. ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและสื่อสารองค์กร ในฐานะผู้กำกับดูแลนโยบายด้านการสื่อสารองค์กรและการดำเนินงานของสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในคลื่นความถี่ เอฟเอ็ม 103 เมกะเฮิรตซ์ เป็นสถานีวิทยุประเภทบริการสาธารณะ สังกัดงานวิทยุสถาบัน กองสื่อสารองค์กร สำนักงานอธิการบดี เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารผลงานความก้าวหน้าและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรสู่ประชาชน นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่นำความรู้ เผยแพร่บริการประชาชน และเป็นแหล่งเรียนรู้ฝึกทักษะนักศึกษา ศึกษาดูงานของสถาบันและองค์กรต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมทั้งจากบุคลากร นักศึกษา รวมทั้งประชาชน มาถึงวันนี้เทคโนโลยีสื่อออนไลน์มีบทบาทมากขึ้นสำหรับประชาชน การเข้าถึงสื่อต่างๆมีการใช้สื่อออนไลน์อย่างแพร่หลาย ในขณะที่สถานีวิทยุ มข.มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่การกระจายเสียงมีความจำกัดในรัศมีการฟังในระบบเอฟเอ็มหากเรานำเทคโนโลยีมาผนวกร่วมในการดำเนินงานก็จะทำให้ผู้ฟังที่ห่างไกลมีโอกาสในการฟังมากขึ้น เช่นศิษย์เก่าที่ผูกพันอยู่ที่ห่างไกลหรือในต่างประเทศอาจต้องการได้รับรู้เรื่องราวของ มข.และได้หวลรำลึกในบรรยากาศเดิมๆผ่านการฟังวิทยุที่เขาเคยฟังในคราวที่ยังศึกษาอยู่ จึงได้เร่งการพัฒนาระบบให้เชื่อมต่อ
ผศ. ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี กล่าวอีกว่า ตอนนี้ผู้ฟังสามารถรับฟังวิทยุ มข.ได้แบบสดแล้วที่ radio.kku.ac.th ผ่านคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ ผ่านบราวเซอร์ และแอพพลิเคชั่นมาตรฐานที่สถานีใช้กันทั่วโลกเช่น tune in หรือ แอพพลิเคชั่นอื่นๆทั่วไป เป็นที่น่ายินดีว่าวันแรกของการเริ่มทดสอบระบบก็มีผู้เข้ามาฟังร่วมร้อยรายถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะขยายผู้ฟังและมีการแชร์ต่อไป สำหรับในอนาคตเราจะพัฒนาไปให้ผู้ฟังสามารถเรียกฟังย้อนหลังได้ในเนื้อหารายการที่มีความสนใจ สิ่งที่ช่วยเพิ่มสีสันและคุณค่าของสื่อวิทยุคือการโต้ตอบกับผู้ฟัง ซึ่งเดิมเราใช้ระบบโฟนอินทางโทรศัพท์เข้ามาในรายการ ซึ่งได้เฉพาะรายการสด แต่เมื่อเรานำระบบออนไลน์มาใช้และมีการพัฒนาเว็ปไซต์จะทำให้ผู้สนใจสามารถติดต่อสื่อสารกับรายการต่างๆได้ด้วยการฝากข้อความคำถาม ข้อเสนอแนะรายการ และต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งทำได้สะดวกตลอดเวลา เป็นการสื่อสารสองทาง จึงมั่นใจว่าสื่อวิทยุไม่มีวันตายแม้จะเป็นเทคโนโลยีเก่าแต่หากเราพัฒนาให้มีความทันสมัยใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามาสนับสนุนก็จะเป็นสื่อที่มีคุณค่าได้ เพิ่มสีสันอีกด้วยลูกเล่นปลั๊กอินต่างๆจะดึงดูดผู้ฟังให้เข้ามามากขึ้น
ผศ. ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี กล่าวต่ออีกว่า สื่อวิทยุมีความเฉพาะที่เป็นจุดดีคือการรับสื่อในขณะเคลื่อนที่ได้มีความรวดเร็ว ซึ่งต่างจากการชมโทรทัศน์ ทั้งการฟังผ่านระบบกระจายเสียงและทางอินเตอร์เน็ตทำให้มีความสะดวก ขณะที่ทางเทคนิคการส่งสัญญาณทางอินเตอร์เน็ตก็ที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ใช้ช่องสัญญาณมากเช่นการส่งภาพของระบบโทรทัศน์ เราสามารถจัดผังเวลาการเผยแพร่ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไม่จำกัดทั้งในแง่ระยะทางและกิจวัตรประจำวันของผู้ฟังเช่นขณะขับรถ หรือทำภาระกิจการงานก็ยังรับฟังได้ แล้วหากเราพัฒนาให้วิทยุสามารถเชื่อมต่อกับระบบวิดีโอเพื่อดูรายละเอียดของเนื้อหาที่ผู้ฟังสนใจเป็นเรื่องๆจะยิ่งเพิ่มคุณค่าของสื่อชนิดนี้ได้อย่างมากเช่นหากมีการเผยแพร่เรื่องการเกษตรให้ผู้ฟังที่สนใจไปเปิดอินเตอร์เน็ตดูรายละเอียดขั้นตอนแบบเห็นภาพ ก็จะได้ประโยชน์โดยตรงต่อผู้ฟัง สำหรับขณะนี้จึงอยากให้ผู้สนใจทดลองเข้าฟังได้ทาง radio.kku.ac.th หรือสื่อสารแนะนำทางเฟสบุคที่ KKU Radio FM103 Mhz
“สถานีวิทยุ มข.มีจุดประสงค์เพื่อบริการสาธารณะเราจึงมุ่งหวังนำองค์ความรู้ทั้งจากบุคลากร คณาจารย์ ที่ผ่านการศึกษาวิจัยเป็นองค์ความรู้ที่มีไปถ่ายทอดให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ได้อย่างสะดวกที่สุด เพื่อสะท้อนความตั้งใจของมหาวิทยาลัยที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยมีวิทยุเป็นช่องทางในการสื่อสารและรับข้อเสนอแนะของประชาชนได้” ผศ. ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี กล่าวในที่สุด
อุดมชัย สุพรรณวงศ์ ข่าว
https://www.kku.ac.th/news/v.php?q=0012285&l=th
Cleanse dem mor, er det lige have taget det gå til cialis generiske. Several vardenafil online cheap generic viagra cialis piller brystmuskler også er nemme nok til at være.