มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงไกร กิจเจริญ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสัมพันธ์ พร้อมด้วย นายบัญชา พระพล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสัมพันธ์ และบุคลากรกองสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมวางพวงมาลาน้อมเกล้าฯ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย” เนื่องในวันมหิดล วันที่ 24 กันยายน 2561 ณ บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 29ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันศุกร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 1 มกราคม พุทธศักราช 2434 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ได้เสด็จไปศึกษาต่อระดับมัธยม ณ ประเทศอังกฤษ และศึกษาวิชาทหาร ณ ประเทศเยอรมัน หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาวิชาทหารแล้ว ได้เข้ารับราชการในกองทัพเรือ
ในส่วนงานการแพทย์และสาธารณสุขนั้น เริ่มจากการทรงทราบถึงปัญหาสภาพความยากลำบากของประชาชนที่เจ็บป่วย การขาดแคลนแพทย์และปัญหาการจัดการศึกษาของโรงเรียนแพทย์ จึงทรงตัดสินพระทัยศึกษาเพิ่มเติมวิชาแพทย์และสาธารณสุข โดยเสด็จไปทรงศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งระหว่างที่ทรงศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษานี้ ได้ทรงเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการเจรจาทำความตกลงกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อขอรับทุนสนับสนุนปรับปรุงโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลในประเทศไทยเพื่อให้ได้มาตรฐานสากลพระองค์ทรงเป็นแพทย์ที่เป็นแบบอย่างของครูที่ดีเยี่ยมเปี่ยมด้วยพระจริยวัตรที่งดงามกอปรด้วยพระเมตตาธรรม ตระหนักถึงความสำคัญของการพยาบาล และการสาธารณสุขว่าเป็นสาขาวิชาที่สำคัญควบคู่กับวิชาชีพแพทย์ ดังที่ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้เป็นทุนการศึกษา วิจัย รวมถึงการสร้างอาคาร ทรงสวรรคตเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2472 รวมพระชนมายุ 37 พรรษา 8 เดือน 23 วัน
ด้วยพระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณอย่างอเนกอนันต์โดยเฉพาะในการวางรากฐานและพัฒนากิจการด้านการแพทย์ การพยาบาล และการสาธารณสุขให้มีความเจริญรุดหน้าทัดเทียมอารยประเทศสืบมาจวบจนปัจจุบัน คณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการสาธารณสุข จึงพร้อมใจกันถวายพระสมัญญานามแด่พระองค์ว่า “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย” พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 24กันยายนของทุกปี เป็น “วันมหิดล” เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พสกนิกรชาวไทย ได้น้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ พระเมตตาคุณแห่งพระองค์สืบไป
ข่าว/ภาพ: บริพัตร ทาสี